ซีรีส์obiwan ซีรีส์ใหม่จาก Disney plus อีกหนึ่งซีรีส์งานคุณภาพ ที่คุณต้องได้ดู
ซีรีส์obiwan มาพูดคุยเกี่ยวกับ ซีรีส์พร้อมกับการรีวิว ซีรีส์สุดเจ๋งจาก Disney plus ว่าด้วยเนื้อเรื่อง ภาคต่อของหนัง star wars ที่รอบนี้เราจะไม่ โฟกัสที่ตระกูล Skywalker แต่จะไปมองที่ obiwan แทน
Hello สวัสดีเพื่อนผู้อ่านทุกคนค่ะ กลับมาพบกับ BOMEBAMB อีกครั้งแล้วในหมวดของ รีวิวซีรีส์ และการรีวิวซีรีส์ของแบ๋ม ในครั้งนี้แบ๋มก็ตั้งใจว่าจะ รีวิวซีรีส์ของ Obi-Wan Kenobi ที่เป็นกระแสอยู่ ณ ตอนนี้กันค่ะ
แต่วันนี้แบ๋มจะ ไม่ได้มาเล่าแค่ตัวหนังนะ แต่ยังมีสาระของอาจารย์ Obi-Wan Kenobi มาฝากทุกคนอีกด้วย เผื่อใครที่อยากดู จะได้เข้าใจกันว่า เขาคนนี้คือใครและทำไม เขาถึงต้องเป็นแบบนี้ เป็นอย่างไรคะ น่าสนหรือเปล่า เพื่อไม่ให้เสียเวลา งั้นเราไปเริ่มกันเลยค่ะ
ซีรีส์obiwan และข้อมูลซีรีส์ที่คุณอาจยังไม่รู้ เกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้
ถ้าจะให้แบ๋มรีวิว ซีรีส์obiwan แบ๋มต้องขอเล่าเยอะหน่อย โดยจะเริ่มจาก ทีมผู้สร้างกันก่อน ซีรีส์นี้ได้ผู้กำกับเป็น เดโบราห์ เชา (Deborah Chow) จริงแล้วเขาคนนี้ ก็เป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียง ในเรื่องของหนังดราม่านะ มีรางวัลผู้กำกับการันตี เรื่องผมงานแต่ ขอพับเรื่องผู้กำกับไว้ก่อนนะ
ถ้าจะมาดูเรื่องของ ทีมที่ทำซีรีส์เรื่องนี้ ต้องบอกเลยค่ะว่า ทีมเดิมที่จำ Star Wars เลยคือพวกเขานี่ละ ถ้าถามว่าทำไมคุณภาพหนัง เรื่องงานภาพ ถึงได้สวยงาม เหมือนหนังโรงเลย ก็ต้องชมพวกเขาเลยค่ะ ถึงแม้ว่าซีรีส์นี้ จะได้งบประมาณ ในการสร้างที่ไม่เยอะมาก
แต่สำหรับเรื่องงานภาพ แบ๋มว่าดีเลยค่ะ ส่วนนักแสดงของเรื่องนี้ ก็อย่างที่เราทราบกันว่า จะมีนักแสดงหลักเป็น Ben Obi-Wan Kenobi ก็คนเดิมค่ะสุดหล่อของเรา ยวน แม็คเกรเกอร์ (Ewan McGregor) และผู้ที่แสดงเป็น อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ นั้นก็คือสุดหล่อของเราอีกคน เฮย์เดน คริสเตนเซ่น
และบทของท่านพ่อ ดาร์ธ เวเดอร์ ( Darth Vader ) ก็แสดงโดย เจมส์ เอิร์ล โจนส์ (James Earl Jones) นักแสดงนำทั้งหมดก็จะ ประมาณนี้เลยค่ะ แต่ยังมีอีกหลายคนนะ ที่เป็นตัวละครหลัก และตัวละครสมมุติ แต่เนื้อเรื่องของ ซีรีส์obiwan จริง ๆ
แล้วเขาตั้งใจจะปูทาง ให้กับแฟนคลับ ได้รู้มากกว่าค่ะว่า เจ้าหญิงเลอา ออกาน่า ได้เจอกับอาจารย์ โอบีวันอย่างไร แต่พอดูหลายรอบแล้ว แบ๋มก็รู้สึกเรื่องนี้มันแปลก ๆ แต่เรื่องนี้ขอติดไว้อีกเรื่องนะคะ ทีนี้เรามาดูเรื่องของ อาจารย์เจได อย่างอาจารย์โอบีวันกันบ้าง
มาทำความรู้จักกับ Jedi Master Obi-Wan Kenobi กัน
ตัวละครของ Obi-Wan Kenobi มีต้นกำเนิดมาจาก General Makabe Rokurota (นายพลมาคาบิ โรคุโรตะ) จากหนังญี่ปุ่นย้อนยุคเรื่อง The Hidden Fortress แต่พอดู ๆ ไปก็แอบมีความเหมือนกับ พ่อมดสีเทาแกนดัล์ฟอยู่นะ 😀
ทีนี้แบ๋มจะเล่าให้ฟัง ว่าอาจารย์โอบีวันมาได้อย่างไร จริงแล้วถ้าเรานับ จากการปรากฏตัวของเขา ครั้งแรกเลยคือของภาค 1977 The New Hope ที่เขาจะออกมาสอนลุค และก็โตท่านพ่อ ดาร์ธ เวเดอร์ ฟันตายกลายเป็น ผีไปนั้นละค่ะ นั้นคือครั้งแรก
แต่ทีนี้ทางของผู้สร้าง จอร์จ ลูคัส เขารู้สึกว่าตัวละครนี้ ควรจะดูทรงพลังกว่านี้หน่อย ก็เลยได้สร้างภาพแรก ที่ย้อนเวลาไปก่อนหน้านั้น อย่างภาคที่ชื่อว่า The Phantom Menace ที่เขาย้อนเวลาไปเจอกับ ดาร์ธ เวเดอร์ วัยเด็กที่ตอนนั้น ยังเป็นเด็กน้อย ชื่อว่าอนาคิน
และตอนนั้นโอบีวันยังเป็นเพียงแค่ เจไดพาดาวัน หรือศิษย์ที่เริ่มฝึกฝนภาคสนาม และมีอาจารย์ไคกอนจิน เป็นอาจารย์ให้ และอาจารย์ไคกอนจินนี่ละค่ะ ที่บอกว่าอนาคิน คือผู้คืนสมดุลสู่จักรวาล ก่อนที่ภาคของ The Phantom Menace จะจบลงโดยการที่ อาจารย์ไคกอนจินตายลง
และหลังจากนั้น ที่เป็นภาคต่ออย่าง Attack of the Clones เขาก็ได้เลื่อนขั้นเป็น อาจารย์เจได และมีพาดาวันเป็นอนาคิน เรื่องราวก็ยาวมาเรื่อย ๆ หลายภาคมากโดยเขาจะชี้และย้ำว่า โอบีวันและอนาคิน สนิทกันมาก เหมือนพี่น้องเลยค่ะ
โอบีวันเป็นคนที่เคร่งในลัทธิของเจไดมาก ๆ และเขาก็เป็นที่ ตรงไปตรงมา แล้วว่าการต่อสู้ของเขา จะเป็นในทางหลอกล่อ และขึ้นชื่อว่า เป็นยอดนักเสี้ยมศัตรูมาก ๆ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเจได ที่บรรลุเพลงดาบสายป้องกัน แบบหาใครเทียบไม่ได้
กล่าวงั้นง่าย ๆ คือโอบีวันคือคนที่ น่ากลัวมากเพราะเขาหลอกล่อด้วยคำพูด และเป็นคนช่างเจรจา แถมมีความรอบคอบมาก ๆ อีกทั้งการโจมตี ก็จะทำอะไรเขาได้ยาก เพราะเขาเป็นที่มีเพลงดาบ ที่สามารถป้องกันตัวเองได้ ถึงขนาดว่า นายพลกรีวัสที่เก่งมาก ๆ ก็ยังสู้ไม่ไหว
และตอนสุดท้ายก่อนจะเข้าซีรีส์ ก็คือภาค Revenge of the Sith ที่อนาคินเข้าสู่ด้านมืด และเกิดฉากดวลดาบในตำนานค่ะ ทั้งหมดคือสิ่งที่ตรึงใจมาก ๆ เป็นฉากฟันดาบที่สนุกมาก เราจะรู้เลยค่ะว่าทั้งคู่คือ เหมือนจะกินกันไม่ลง แต่ระหว่างสู้จะเห็นว่าโอบีวันจะคอยพูด และกล่อมตลอด จนถึงตอนสุดท้าย
มาพูดถึง ทำไมถึงต้องดู ซีรีส์โอบีวัน ?
คือตอนแบ๋มดู ดูเพราะว่าเป็นกระแสค่ะ เห็นเขาว่างานดีหนังดี ซึ่งหนังก็ดีมากจริง ๆ ค่ะงานภาพอย่างที่บอก งานดีมากฉากต่อสู้ ฉากไล่ล่าเนื้อเรื่องคือ เข้มข้นชวนติดตามมาก ๆ แบบแบ๋มนั่งนับวันรอเลย ว่าจะมาอีกทีเมื่อไรยัง
ถึงแม้ว่าจะมีบางตอน ที่แอบน่าเบื่อไปบ้าง ที่แบ๋มก็ไม่รู้ว่า ทำไมต้องมีฉากนี้ แต่ก็พอเข้าใจว่าต้องปูเรื่องให้ตอนต่อไป ซึ่งก็ทำออกมาได้ดี ในตอนหลังค่ะ โดยจำนวนตอนที่มีทั้งหมด 6 ตอนสำหรับแบ๋มแล้วคิดว่า เขาน่าจะทำให้ได้ยาวกว่านี้
แต่คงเป็นเรื่องงบประมาณ หรือปัญหาภายในหรือเปล่า ทำให้เรื่องนี้ออกมาแบบแปลก ๆ ยิ่งตอนที่ 4 นี่คือสามารถหลับได้เลยค่ะ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยดู Starwars เลยแบบแบ๋ม ก็บอกได้เลยค่ะว่า นี่เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ ที่ได้ดูแล้วรู้สึกว่าชอบ งานภาพที่สวยงาม เสียงประกอบหนัง
ไหนจะทุกอย่างของเรื่อง ก็เป็นของจริงเกือบทั้งหมด มันทำให้เรารู้สึกว่า ของพวกนั้นมีอยู่จริงค่ะ ต้องยอมรับทีมผู้สร้างว่าทำออกมาได้ดีจริง ๆ ค่ะ
มีข้อเสียอะไรบ้างหรือ มีอะไรที่ต้องยอมรับก่อนดู ซีรีส์โอบีวันใหม่ นี้ ?
ถ้าจะให้แบ๋มรีวิว ซีรีส์obiwan แล้วเจอแต่เรื่องดี ๆ มันก็จะไม่ใช่รีวิวถูกไหมคะ หลังจากที่แบ๋มไปดูภาคที่ 1 จนถึงภาคที่ 9 รวมถึงภาคของการ์ตูนอย่าง The Clones War ของหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้แบ๋มรู้เลยค่ะว่า ซีรีส์obiwan มีจุดที่น่าผิดหวังอยู่เยอะมาก ๆ
คือบางทีแบ๋มกลับมาดูอีกรอบ ก็รู้สึกว่าเนื้อเรื่องแอบ ๆ ตลกอย่างที่ทำไมพวกของ Inquisitor ถึงปล่อยโอบีวันหนีไปได้ โดยที่ทั้งเรื่อง ก็บอกอยู่ว่า ท่านพ่อต้องการตัวของโอบีวัน คืองงมากเพราะถ้าจับได้ ก็จะเข้าสู่ฉากต่อสู้ ที่น่าจะเกิดขึ้นหลายรอบ ในเรื่องนี้ค่ะ
เรื่องถัดไปคือ ทำไมท่านพ่อถึงสู้กับ เทิร์ดซิสเตอร์ แล้วปล่อยให้นางหนีไปได้ อันนี้คือไม่เข้าใจ ซึ่งจริงแล้วถ้าเราอินกับบทของ ดาร์ธ เวเดอร์ จะรู้ว่าเขาคนนี้คือ ฆ่ายัยฆ่าไม่เลี้ยงค่ะ เป็นคนที่เด็ดขาดมาก ๆ แต่เรื่องนี้คือ อะไรก่อน
และเรื่องสุดท้ายก็คือ เรื่องความต่างของพลัง ของโอบีวันและท่านพ่อ ดาร์ธ เวเดอร์ ซึ่งตามสเกลในเนื้อเรื่องแล้ว เขาจะวัดค่าพลังฟอร์ส ผ่านค่ามิดิคลอเรี่ยนในเลือด ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า ดาร์ธ เวเดอร์ คือคนที่มีเยอะที่สุด แบบโอบีวันเทียบไม่ติด
และพอเห็นฉาก ที่โดนปาหินใส่คือแอบ ๆ สิ้นหวังนิด ๆ ค่ะเพราะถ้าสลับกัน แต่เป็นโอบีวันที่ฟันก้อนหิน มันจะดูดีกว่ามาก ๆ จริงนะแต่นั่นก็เป็นแค่ ความคิดเห็นของแบ๋มนะ
ท้ายนี้ถ้าถามว่า ซีรีส์obiwan น่าดูหรือเปล่าแบ๋มก็ยังบอกได้เลยค่ะ ว่านดูแม้ว่าทางผู้กำกับจะเขียนบทแปลก ๆ และก็เน้นสาระ ที่ไม่เป็นสาระมากไปหน่อย พร้อมกับเรื่องของบทเจ้าหญิงเลอา ที่ซนเหลือจนทนนอกนั้นก็ถือว่า เป็นซีรีส์ที่ดีเลยค่ะ แบ๋มแนะนำให้ดูเลย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับการรีวิวของแบ๋ม ชอบกันหรือเปล่าถ้าชอบก็สามารถติดตาม การรีวิวหนังของแบ๋ม ๆ ได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยนะ รับรองว่าแบ๋มจะรีวิวThor LoveAndThunder พร้อมแทรกเนื้อหาแบบนี้อีกเยอะ ๆ เลยค่ะ และนอกจากนี้ ยังมีบทความที่น่าสนใจของเพื่อน ๆ นักเขียนหลายคนอยู่ด้วยนะ
ท้ายนี้ก็หมดเรื่องจะคุยแล้ว แบ๋มของลาไปก่อนสวัสดีค่ะ 😀
เขียนโดย BOMEBAMB