Puss in Boots 2 ผลงานภาคต่อที่หลายคนให้ความสนใจ จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
Puss in Boots 2 สวัสดีครับทุกคน วันนี้เราก็จะมา รีวิวหนัง ที่หลายคนต้องรอคอยแน่นอน หากทุกท่านทนทุกข์ทรมาน กับการรอคอยภาคต่อ อย่าง Avatar the way of Water มันนานถึง 13 ปีแล้วนะครับ มีภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งครับ ที่ปล่อยให้ผู้ชมรอคอยนานไม่แพ้กันเลย ซึ่งก็คือ พุซ อิน บู๊ ท 2 นั่นเองครับ
ซึ่งภาพยนตร์ได้ทิ้งห่างจากภาคที่แล้วนานกว่า 11 ปีด้วยกัน จนมีหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า puss in boots 2 เข้าวันไหน กันแน่ ในที่สุดก็ได้เลิกฉายในวันที่ 29 ธันวาคมปี 2022 ที่ผ่านมานี้ โดย Puss in Boots: The Last Wish
เป็นแอนิเมชันที่แตกตัวออกมาจากแฟรนไชส์สุดฮิตอย่าง Shrek ซึ่งหยิบเอากลิ่นอายที่ผู้คนคิดถึงกลับมาอย่างครบถ้วน ในขณะเดียวกันตัวหนังก็มีความโดดเด่นเป็นเอกเทศ สามารถรับชมได้ โดยไม่ต้องอ้างอิงพื้นฐานเรื่องราวจากภาพยนตร์เรื่องอื่น
แล้วก็สามารถนำเอารสชาติแล้วก็สไตล์ใหม่ ๆ เข้ามาสู่แฟรนไชส์ได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกันครับ จุดเด่นของภาพยนตร์ก็คือ การผสมผสานเรื่องราวที่มีความเป็นผู้ใหญ่ เข้ากับความบันเทิงที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัวได้อย่างลงตัว โดยแก่นกลางของภาพยนตร์นั้น
เป็นการพาตัวละครไปเผชิญหน้ากับความจริงอันน่าหวาดหวั่นใจ ว่าด้วยความหวาดกลัวต่อวาระสุดท้ายของชีวิต การเผชิญหน้ากับความตาย และการโอบกอดความสวยงามของชีวิตครับ ผ่านตัวละครหลักอย่าง พุช ที่เหลือโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวนะครับ
ในการที่จะทวงความอมตะของตัวเองกลับคืนมา นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังเต็มไปด้วยตัวละคร ที่ล้วนมีเป้าประสงค์ที่เรียบง่าย หากแต่มันเต็มไปด้วยอารมณ์ และความรู้สึกที่ผู้ชมเนี่ยสามารถเชื่อมโยงได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นการตามหาครอบครัวที่อบอุ่น
การตามหาความสุขในชีวิต การตามหาใครสักคนที่จริงใจและก็พร้อมจะก้าวเดินไปด้วยกัน หรือกระทั่งความไม่ต้องการในสิ่งใด นอกจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบันครับ ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้ล้วนแต่ถูกใช้เป็นคติสอนใจ
รวมถึงยังสามารถสร้างรอยยิ้มและก็คราบน้ำตาให้กับผู้ชมได้อย่างถูกที่ถูกเวลาครับ แม้เนื้อหาโดยรวมจะมืดมนขึ้น จริงจังมากขึ้น และดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นนะครับ แต่ภาคนี้ก็สามารถสร้างเสียงหัวเราะและการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นให้กับเรื่องราวได้อย่างพอดิบพอดี
โดยเฉพาะการหยิบเอาตัวละคร จากนิทานและเทพนิยาย โบราณมาตีความใหม่ ให้มันมีความร่วมสมัยมากขึ้นนะครับ นำโดย โกลดี จากนิทานเรื่อง Goldilocks and the Three Bears แจ็ค ออร์เนอร์ ซึ่งถูกดัดแปลงมาจาก little jack horner
รวมถึงการเลือกวายร้ายคนสำคัญของเรื่องให้เป็นหมาป่า ซึ่งมันก็เป็นวายร้ายในนิทานสำหรับเด็กแทบทุกเรื่องครับ นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังมี อีสเตอร์เอ้กของเหล่าตัวละครจากนิทานดังอีกมากมาย ที่พร้อมจะมาร่วมสร้างสีสันให้กับเรื่องราวครับ การแข่งขันกันของพวกเขา
เพื่อจะไขว่คว้าความปรารถนาสูงสุดในชีวิตจากดาวอำนวยพร คือใจกลางความบันเทิงในภาพรวมของภาพยนตร์ครับ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ตัวละครอย่าง เปอริโต้ สุนัขจรจัดจอมขโมยซีน ที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างเสียงหัวเราะ และก็โมเมนต์อันแสนอบอุ่นของภาพยนตร์ครับ
Puss in Boots 2 องค์ประกอบที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จและจะเป็นที่จดจำของผู้ชมไปอีกนาน
อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่น และทำให้กลายเป็นแอนิเมชันที่น่าจดจำมากขึ้นก็คือ งานด้านภาพครับ ภาพยนตร์สามารถหยิบเอาองค์ประกอบของงานศิลปะหลากหลายชนิด มาผสมรวมกันได้อย่างลงตัวมาก ๆ ครับ
โดยภาพยนตร์เรื่องจะถอยห่างจากความสมจริงออกมาหนึ่งก้าว ทั้งในแง่ของการออกแบบ รวมไปถึงการเนรมิตแสงเงาให้ตกกระทบกับพื้นผิว ซึ่งมันเต็มไปด้วยรายละเอียด พร้อมกับเปลี่ยนทุกอย่างเนี่ยให้มันดูมีความเป็นการ์ตูนวาดมากขึ้น โดยหากสังเกตดี ๆ เนี่ย
ในฉากหลังของภาพยนตร์นั้นคล้ายคลึงกับภาพวาดสีน้ำมันครับ ขณะที่องค์ประกอบด้านเอฟเฟกต์ของภาพ เช่น ก้อนเมฆ กลุ่มควัน หรือกระทั่งเปลวเพลิงนั้น ตัวหนังก็หยิบเอาลักษณะเด่นจากการ์ตูนญี่ปุ่นมาใช้ได้อย่างน่าสนใจครับ นอกจากนี้ในฉากแอ็กชันของภาพยนตร์
ยังเลือกใช้เทคนิคในการเปลี่ยนเฟรมเรตอย่างฉับพลัน เพื่อให้งานด้านภาพนั้นมีมิติที่แตกต่าง และใกล้เคียงกับการเป็น Stop Motion หรือว่าการ์ตูนว่าในยุค 2 มิติมากขึ้นครับ ทุกเทคนิคที่กล่าวมานี้ มันทำให้งานด้านภาพของเรื่องนี้
เต็มไปด้วยความฉูดฉาด ที่พร้อมจะขโมยความสนใจของผู้ชมอยู่ตลอดเวลาครับ โดยสรุปแล้วภาพยนตร์เรื่อง พุ ช อิน บูท สามารถติดเพลาเรื่องเล่าในตำนานอย่างแมว 9 ชีวิต มานำเสนอในรูปแบบของตัวเองได้อย่างชาญฉลาดครับ
ผสมผสานเนื้อหาที่มีความเป็นผู้ใหญ่ เข้ากับความบันเทิง ของความเป็นแอนิเมชันได้อย่างลงตัวมาก ๆ พร้อมสอดแทรกแง่คิดที่เหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ได้อย่างไม่ขัดเขินอีกด้วยครับ เมื่อบวกกับงานด้านภาพที่โดดเด่นสะดุดตา ก็ยิ่งทำให้ Puss In Boots
ภาคนี้กลายเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนึงที่น่าจดจำในปี 2022 ครับ มีการปล่อย movie trailer ประเด็นตกผลึก ที่ตั้งใจจะนำเสนอให้ทุกท่านได้อ่านกันในวันนี้ก็คือ การตามหาความงดงามที่แท้จริงของการมีชีวิต ภาพยนตร์หยิบเอาตำนานแมว 9 ชีวิตมาบอกเล่าได้อย่างสนุกสนาน
จนทำให้ได้รับคะแนนใน mdb ไปกว่า 7.9 คะแนนเลยทีเดียว โดยหนังนั้นเริ่มต้นด้วยการพาผู้ชม ไปพบเจอกับชีวิตที่แปลกของพุช แมวจอมโจรมือฉมังเขาเป็นสุดยอดนักดาบ เป็นฮีโร่ผู้ไร้ความกลัว และกำลังสร้างตัวตนของเขาให้กลายเป็นตำนานครับ
ก่อนที่เรื่องราวทั้งหมดจะทำการกระชากทุกอย่างที่ผมกล่าวมา ให้มันออกจากตัวตนของพุชจนหมดสิ้นครับ เมื่อพุชเกิดพลาดท่าในการต่อสู้แล้วก็จบชีวิตที่ 8 ของเขาลงนะครับ จนทำให้เขาเดินทางมาถึงโอกาสสุดท้ายในชีวิตที่ 9 ของเขาครับ
เมื่อพุชได้มองเห็นความตายที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้มากกว่าที่เคย ความเชื่อที่เขายึดถือมาตลอดจึงถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรงครับ เขาได้เปลี่ยนตัวเองจากสุดยอดนักปล้นในตำนาน อัศวินฉายเดี่ยวผู้ไร้มิตร และนักรบผู้มั่นใจในความอยู่ยงคงกระพันของตัวเอง กลายเป็นนักเดินทางผู้อ่อนล้าและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว คล้ายกับว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาได้ผ่านพ้นไปแล้ว
Puss in Boots 2 imdb ปิดท้ายกันด้วยข้อคิดที่ได้จากเรื่องแล้วก็การให้คะแนนองค์ประกอบหนังโดยรวมเป็นอย่างไรบ้าง
การต้องรับมือกับความจริงดังกล่าว ทำให้พุชเลือกจากทุ่มเททุกอย่างในการออกเดินทางตามหาดาวอำนวยพร เพื่อดลบันดาลชีวิตทั้ง 9 ให้กลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง ซึ่งเรื่องราวการผจญภัยของพุช ก็ถูกใช้เป็นความบันเทิงหลักของภาพยนตร์ครับ
แต่นอกเหนือจากความสนุกสนาน และก็เสียงหัวเราะที่เราได้รับจากภารกิจของพุชแล้ว สิ่งที่ภาพยนตร์นำเสนอนั้นก็ชวนให้ผู้ชมเนี่ย หวนนึกถึงชีวิตของตัวเองอยู่เหมือนกันครับ เพราะว่าสุดท้ายแล้ว มนุษย์ทุกคนย่อมเดินทางสู่จุดจบของตัวเองด้วยกันทั้งสิ้นครับ
ในวันสุดท้ายของชีวิต มันย่อมเป็นวันที่ทุกอย่างรอบกายนั้น ไม่สามารถโอบอุ้มชีวิตของเราได้อีกต่อไปครับ ไม่ว่าจะด้วยฐานะ ตัวตน อัตรา ยศถาบรรดาศักดิ์ หรือกระทั่งเรื่องราวที่ผู้คนรอบข้างเลือกจะจดจำเรา ก็ย่อมเลือนหายไปตามกาลเวลาเช่นกันครับ
สัจธรรมข้อนี้ชวนให้พุช ผู้ซึ่งพยายามผลักดันตัวเองให้อยู่ในจุดสูงสุดอยู่เสมอ เดี๋ยวกลับมามองถึงสิ่งที่เขามองข้ามมาตลอดเส้นทางชีวิตทั้ง 8 ของเขาครับ คุณค่าที่พุชแล้วก็เหล่าตัวละครในเรื่องได้ค้นพบ นับเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรจะตามหาให้เจอครับ
มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างการประสบความสำเร็จ การเป็นผู้มีอำนาจ หรือว่าการถูกยกย่องจากคนทั่วโลกนะครับ แต่มันอาจจะเป็นสิ่งที่เรียบง่าย และก็น่าจดจำในรูปแบบที่มันเฉพาะตัวครับ เช่น การได้รับมิตรภาพที่ดี การมีครอบครัวที่อบอุ่น
หรือกระทั่งการก้าวข้ามผ่านความกลัวภายในจิตใจของตัวเราเองครับ ที่สำคัญก็คือ เราไม่ควรเอาคุณค่าเหล่านั้น ไปผูกติดหรือว่าไปเปรียบเทียบกับใครนะครับ เพราะว่าเกณฑ์การวัดความสุขและความงดงามของชีวิตนั้น มันเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล
ที่มันไม่มีทางจะใช้มาตรฐานเดียวกันในการตัดสินได้ครับ ดังนั้นการตามหาคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต จึงเป็นสิ่งที่เราควรจะให้ความสำคัญ ไม่แพ้กับการเดินทางไปให้ถึงเป้าหมายเลยนะครับ เพราะว่าไม่มีใครสามารถรับรู้ได้เลยนะครับว่า
วันพรุ่งนี้หรือว่าชาติหน้าสิ่งใดจะมาถึงก่อนกัน ฝากไว้ให้คิดกันนะครับ แล้วก็มาถึงช่วงของการให้คะแนนภาพยนตร์กันแล้วนะครับ ในส่วนของภาพยนตร์นั้น ผมขอให้ไว้ที่ 7 คะแนนครับ ไม่แปลกเลยที่หนังภาคแรกนั้นอย่าง ภาค imdb จะได้รับคะแนนนี้ไปถึง 6.6 คะแนน
ผมชอบการที่หนังหยิบเอาไอเดียเรื่องแมว 9 ชีวิตมาใช้มาก ๆ นะครับ เพราะมันนำมาซึ่งเรื่องราวที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ที่มันถูกรวมอยู่ในกรอบของแอนิเมชันได้อย่างยอดเยี่ยมครับ นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังสามารถสร้างตัวละครออกมาได้อย่างเรียบง่าย
แต่มันกลับเต็มไปด้วยมิติ แล้วก็ความต้องการที่จับต้องได้มาก ๆ ครับ ส่วนที่ผมเลือกจะตัดคะแนนออกไปบ้าง ก็คงจะเป็นเรื่องราวการหาทางออกของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่บางครั้งเนี่ยมันออกจากง่ายเกินไปสักหน่อยครับ ในส่วนของงานสร้างนั้นผมขอให้ไว้ที่ 8 คะแนนครับ
งานด้านภาพของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือพระเอกคนนึงของเรื่องเลยก็ว่าได้นะครับ
ด้วยการผสมผสานเทคนิคแล้วก็องค์ประกอบของงานศิลปะหลากหลายชนิดเข้าด้วยกัน ทั้งภาพวาดสีน้ำมัน การ์ตูนวาด 2 มิติ อนิเมะ แล้วก็ภาพแอนิเมชัน 3 มิติครับ อีกทั้งยังสามารถหยิบเอาข้อจำกัดด้านเฟรมเรต มาใช้ประโยชน์ในแง่ของฉากแอ็กชันได้อย่างสร้างสรรค์มาก ๆ ครับ ขยับมาต่อกันที่นักแสดงนะครับ ผมขอให้ไปที่ 6 คะแนนครับ นักแสดงทุกคนที่มาร่วมให้เสียงในภาพยนตร์ ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีนะครับ
ไม่ว่าจะเป็น อันโตนิโอ บันเดรัส ในบทของพุช ซัลมา ฆาเยก ในบทของคิตตี้ ฮาร์วีย์ กิลเลน ในบทเปอริโต้ ฟลอเรนซ์ พิว ในบทโกลดี และ วากเนอร์ มูร่า กับบทหมาป่าวายร้ายของเรื่องครับ แต่บอกตามตรงนะครับว่า ผมไม่ได้รู้สึกเลยว่ามีใครโดดเด่นเป็นพิเศษขนาดนั้นครับ
ข้อคิดที่ได้ผมขอให้ไว้ที่ 7 คะแนนครับ และสำหรับเรื่องของ puss in boots 2 รายได้ ก็กวาดรายได้รวมกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐจากทั่วโลกกันเลยทีเดียว แล้วตอนนี้หนังก็ไม่ได้ฉายในโรงแล้ว ก็แนะนำให้ซื้อแบบลิขสิทธิ์มาดูกันครับ
แต่ใครที่อยากดูแบบฟรีก็สามารถหาดูได้ในแอป bilibili โดยใช้คำค้นว่า puss in boots 2 พากย์ไทย bilibili ก็คงหาดูฟรีได้ไม่ยากครับ หรือจะใช้คำค้นว่า Puss in Boots 2 Death ก็จะเจอหลายท่านมาโพสต์ให้ดูกันฟรีเลยครับ
นอกจากนี้ทุกคนก็สามารถหาดูการรีวิวเรื่องนี้ ได้จากทางเว็บไซต์ ทั้ง Puss in Boots 2 rotten tomatoes และ Puss in Boots rotten tomatoes สำหรับวันนี้ เราก็ต้องขอตัวลาไปก่อน หากอยากติดตามเรา ก็สามารถรอดูบทความที่น่าสนใจใหม่ ๆ ได้ที่เว็บไซต์ของเราได้เลย สวัสดีครับ
ติดตามบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ
เขียนโดย อลิส